Go Karts กล้าฝันพลังโกคาร์ท

รีวิว Go Karts กล้าฝันพลังโกคาร์ท หนังแข่งรถเล็กจากแดนจิงโจ้

เมื่อเอ่ยถึงหนังออสเตรเลีย รีวิวหนัง สำหรับคนดูทั่วไปคงนึกออกนับเรื่องได้ แต่ก็มีผู้กำกับฝีมือดีมากมายหลายคนจากที่นี่แจ้งเกิดในฮอลลีวู้ด ไม่ว่าจะเป็น ปีเตอร์ เวียร์(Master and Commander), บาซ เลอห์มานน์ (The Great Gatsby), เคท ชอร์ตแลนด์ (Black Widow) แต่หากเมื่อนึกถึงหนังกีฬาแข่งรถโกคาร์ทควบรวมไปด้วยแล้วล่ะก็อาจยิ่งแทบนึกไม่ออกว่ามีเรื่องไหนทำมาก่อน
Go Karts หรือในอีกชื่อว่า Go ! เป็นหนังครอบครัว ดูหนังออนไลน์ จากออสเตรเลีย ผลงานกำกับของ โอเว่น เทรเวอร์ ที่จับโลกกีฬาแข่งรถขนาดเล็กซึ่งมักเป็นจุดเริ่มต้นของนักกีฬาแข่งรถในแดนจิงโจ้มาทำ และเนตฟลิกซ์ได้ซื้อสิทธิ์ฉายสตรีมมิ่งทั่วโลก
เทรเวอร์ผู้กำกับหนัง ตัวอย่างหนังใหม่ หน้าใหม่ชาวออสเตรเลียสำหรับหนังขนาดยาว แต่ก็สั่งสมประสบการณ์มาไม่น้อย เขาสร้างชื่อมาจากการทำหนังสั้นที่มาจากวิดีโอเกม Street Fighter ในชื่อ Street Fighter: Legacy (2010) ขณะเดียวกันเขาเองก็มีประสบการณ์ทำซีรี่ส์แข่งรถมาก่อนใน Top Gear(2008-2012) มันเป็นงานที่เดินตามรอยความสำเร็จของ Ride Like A Girl หนังแข่งม้าที่กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดของออสเตรเลียในปี 2019
Go Karts กล้าฝันพลังโกคาร์ท
1 จุดเริ่มต้นในการเลือกเรื่องนี้มาทำส่วนหนึ่งเพราะความชอบส่วนตัวในวัยเด็กที่มีต่อกีฬาประเภทนี้ เช่นเดียวกับโปรดิวเซอร์ของหนัง เจมี่ ฮิลตัน ทำให้เป็นแรงบันดาลใจพัฒนาการสร้างหนังสำหรับครอบครัวจากไอเดียนี้ และความท้าทายเมื่อเขาพบว่ามีหนังเกี่ยวกับโกคาร์ทเพียงไม่กี่เรื่อง และก็เป็นหนังห่วยทั้งสิ้น เพราะเขามองว่าด้วยรูปร่างรถ และรูปแบบการแข่งทำให้การถ่ายทอดให้ดูเป็นกีฬาที่เท่ในหนังนั้นทำได้ยาก แต่เขาก็มองเห็นเสน่ห์บางอย่างของกีฬานี้
ผลลัพธ์กลายเป็นหนังที่แม้จะไม่ได้เทียบเท่าหนังกีฬาแข่งรถฟอร์มูล่าวัน แต่ก็นับเป็นหนังครอบครัวที่ทำได้น่าพอใจ โดยเฉพาะฉากแข่งรถที่ต้องนับว่าเทรเวอร์ประสบความสำเร็จทีเดียว
Go Karts กล้าฝันพลังโกคาร์ท
2 เรื่องราวเกิดขึ้นที่บัสเซลตัน เมืองเล็กๆ ของออสเตรเลีย ที่ครอบครัวฮูเปอร์ย้ายมาจากซิดนี่ย์เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมืองที่พวกเขาไม่รู้จักใคร กับบ้านที่ต้องซ่อมแซม เช่นเดียวกับแม่ (ฟรานเซส โอคอนเนอร์ จาก The Conjuring 2) ที่ต้องแก้ปัญหาของ แจ๊ค (วิลเลียม ล็อดเดอร์) ลูกชายวัยรุ่นที่สร้างเรื่องกลุ้มใจมาแต่เดิม เขาชอบขับรถซิ่ง และขับรถเป็นรูปโดนัท ไม่เว้นแม้แต่ที่เมืองแห่งใหม่นี้ แต่เธอก็แทบไม่มีเวลาดูแล
แจ๊คไปร่วมงานปาร์ตี้แข่งรถโกคาร์ทที่ตอนแรกเขาดูแคลน แต่เมื่อได้ลองสัมผัสมันก็ติดใจในกีฬาท้าความเร็วนี้ ในงานเขายังได้เพื่อนใหม่ โคลิน (ดาเรียส อมาร์ฟิโอ เจฟเฟอร์สัน) เด็กวัยรุ่นผิวสีร่างเล็ก พร้อมๆ กับถูกเขม่นจากดีน(คูเปอร์ แวน กรูเทล) แชมป์แข่งรถโกคาร์ท และพรรคพวก ดีนเป็นลูกชายของเศรษฐีที่อยากปั้นให้ลูกของตนได้เป็นแชมป์ระดับประเทศ ขณะเดียวกันเขาก็แอบชอบแมนดี้ (อนาสตาเซีย บอมพัส) น้องสาวของดีนที่รักการเป็นช่างเครื่องมากกว่าการแข่งรถในสนาม
Go Karts กล้าฝันพลังโกคาร์ท
3 เรื่องราวหลังจากนั้นเป็นเหมือน Karate Kid(1984) ภาคโกคาร์ท แจ๊คได้พบกับ แพทริค(ริชาร์ด ร็อกซ์เบิร์ก) อดีตนักแข่งรถฝีมือเยี่ยม ที่ปัจจุบันเปิดสนามแข่งโกคาร์ทที่ไม่มีคนมาใช้ นอนอยู่ในรถบ้านเพียงลำพังจากความเจ็บปวดในอดีต ที่ใช้งานเขามากกว่าให้ฝึกแข่งรถ แต่กลายเป็นการฝึกทักษะพื้นฐานอย่างที่ตนไม่คาดคิด ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือสอนในสิ่งที่เขาไม่เข้าใจที่สุด นั่นคือความอดทน รอจังหวะสำคัญในการที่จะเอาชนะคู่แข่ง มากกว่าใช้อารมณ์ฉุนเฉียว คึกคะนองเพื่อจะเอาชนะท่าเดียว พร้อมๆ กับการช่วยเหลือจากเพื่อนและหญิงสาวที่เก่งเรื่องเครื่องยนต์
เพราะแม้แจ๊คจะเป็นเด็กหนุ่มหล่อเหลา แต่เขากลับไม่ประสีประสาในเรื่องความรัก การคบหาสานต่อความสัมพันธ์กับเพื่อนหรือใคร จนแพทริคเองยังกลัวว่าแจ๊คจะเดินตารอยตน เขาสนใจหมกมุ่นแต่รถและความเร็ว แต่ยิ่งไปกว่านั้นเขากลับไม่เข้าใจปัญหาของตัวเอง ที่ยังไม่อาจสลัดความรู้สึกเสียใจต่อการจากไปของพ่อ หากเก็บความรู้สึกดังกล่าวเอาไว้ และกลายเป็นภาพหลอนติดตัวมาโดยตลอด ส่งผลต่อการแข่งขันรถโกคาร์ททุกครั้ง เพราะพ่อเป็นคนรักรถ และเป็นเสมือนเงาที่เขาพยายามเอาชนะ
Go Karts กล้าฝันพลังโกคาร์ท
4 เทรเวอร์สร้างฉากแข่งรถที่มีลานแข่งสนามไม่ใหญ่ด้วยการตัดต่อที่เร้าใจ มีการใช้เทคนิคแบ่งเฟรม และภาพกราฟฟิคต่างๆ มาสร้างสีสันได้ค่อนข้างได้ผล จนเราพอจะลืมไปว่าภาพกว้างโดยรวมสนามเหล่านี้อาจไม่ได้ดูดีโดดเด่นเหมือนสนามแข่งรถฟอร์มูล่าวันไปได้
รวมถึงฉากที่หลอกหลอนแจ๊ค เป็นการตัดต่อแบบมองทาจที่มีลีลาคล้ายกับหนังเกี่ยวกับยาเสพติดเรื่องดัง Requiem for a Dream(2000) แต่เอาเทคนิคภาพเกรนแตก และบิดเบี้ยวในลักษณะการเล่นวิดีโอเกมจากจอโทรทัศน์เก่าๆ มาใช้แทน สลับกับสีหน้าของเด็กหนุ่ม โดยไม่ต้องมีภาพรุนแรง แต่สร้างผลทางอารมณ์ได้อย่างดี
และอาจด้วยความที่หนังเองพูดถึงกีฬาที่ไม่ได้รับความนิยมมาก และเกิดขึ้นในเมืองเล็กๆ แต่ในเรื่องรถโกคาร์ทเป็นเหมือนตัวเอกหนึ่ง การเล่ารายละเอียดชีวิตเล็กๆ น้อยๆ ของผู้คนในเมือง ไม่ว่าจะเป็นความรักของคริสตี้ แม่ของแจ๊คกับนายตำรวจขี้อาย หรือความสัมพันธ์ที่เล่าถึงอดีต และความฝันให้กันฟังของแจ๊ค และแมนดี้ ซึ่งแสดงให้เห็นทางเลือกที่ใครอาจคาดไม่ถึง อย่างความฝันจะกลายเป็นช่างแต่งรถหญิงมือหนึ่ง นับเป็นเสน่ห์เล็กๆ ที่ต่างไปจากหนังประเภทเดียวกันของฮอลลีวู้ด
Go Karts กล้าฝันพลังโกคาร์ท
5 ปัญหาสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ พล็อต และรายละเอียดตัวละครอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ก็ค่อนข้างเชย (เช่น เพื่อนสนิทอย่างโคลิน ที่เป็นเหมือนตัวประกอบผิวสีบุคลิกตลกๆ สมัยก่อน) และทำอย่างไรการเลือกเล่าเกี่ยวกับรถโกคาร์ท ก็คงให้ภาพความเร็ว แรง เร้าใจสู้รถแข่งจริงๆ ไม่ได้อยู่ดี
แต่ในแง่การทำหนังครอบครัว เทรเวอร์สอบผ่านในการทำหนังให้สนุก และนำเสนอประสบการณ์เคว้งและสูญเสียของวัยรุ่นคนหนึ่งได้ในระดับที่น่าพอใจทีเดียว
ฉากที่ดีที่สุดฉากหนึ่งเป็นเรื่องง่ายๆ เมื่อแจ๊คเสียศูนย์ เขาและแม่ปรับความเข้าใจกันอย่างจริงจัง วิลเลียม ลอดเดอร์ นักแสดงหน้าใหม่ และฟรานเซส โอคอนเนอร์ ทำหน้าที่ของทั้งคู่ได้อย่างซาบซึ้งกินใจ

คลิ๊กดูได้ที่ >>> https://www.reviewnung.com/



ความคิดเห็น